“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงมั่นใจหลังบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล แบบสบาย 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และคืนวันนี้ พวกเขาจะลงทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก โดยบุกไปเยือน เรอัล มาดริด ทีมแชมป์ยุโรป 13 สมัย พวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน นี่คือแผนการเล่น 2 รูปแบบ ที่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจเลือกใช้งานรับมือกับทัพ “ราชันชุดขาว”
– ไวจ์นัลดุม คืนตัวจริงในระบบ 4-3-3
จากที่ลงสนามเป็นตัวสำรอง (เจมส์ มิลเนอร์ ลงตัวจริง) ในเกมบุก “ไอ้ปืนใหญ่” 3-0 เชื่อว่า เกมนี้ คล็อปป์ น่าจะใส่ชื่อ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กองกลางชาวดัตช์ เป็นตัวจริง กับ ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า หากใช้แผนการเล่นอย่าง 4-3-3 ส่วนผู้รักษาประตู (อลีสซง เบ็คเกอร์) และแผงหลัง 4 ตัว (เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน) ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือชุดแนวรับที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดของ “หงส์แดง” ณ เวลานี้
ส่วนแนวรุกมีความเป็นไปได้ที่ คล็อปป์ จะเลือกใช้งาน ดีโอโก้ โชต้า ที่ฟอร์มกำลังร้อน สตาร์ทเป็นตัวจริงทางฝั่งซ้าย แทน ซาดิโอ มาเน่ ที่ระยะหลังดูล้าๆ โดยจะประสานงานร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
– รุกสุดตัวกับ 4-2-3-1, ดร็อป ไวจ์นัลดุม
ถ้าหาก คล็อปป์ หวังเอาประตูตั้งแต่หัววัน เพื่อเก็บอะเวย์โกล ก็มีความเป็นไปได้ที่จะยัดทั้ง โชต้า, ซาลาห์, ฟีร์มีโน่ และ มาเน่ ลงตัวจริงพร้อมกันหมด โดย โชต้า จะยืนเป็นหน้าเป้า และมี ฟีร์มีโน่ รับบทเป็นจอมทัพเบอร์ 10 ขณะที่ ซาลาห์ และ มาเน่ เล่นเป็นตัวริมเส้นตามถนัด ซึ่งการเล่นแบบนี้ใช้ได้ผลมาแล้วในเกมเมื่อวันเสาร์ ที่ปรับแผนเดินหน้าเอาประตูจาก อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ แถมช่วงนี้ เรอัล มาดริด ไม่มี เซร์คิโอ รามอส ด้วย
หาก ยอดกุนซือเลือดเบียร์วัย 53 ปี เลือกใช้ระบบนี้ตั้งแต่เริ่มเกมจริง นั่นหมายความว่า ไวจ์นัลดุม มีแววต้องนั่งสำรองไปก่อน เนื่องจากโควตากลางรับสองตัวนั้น ฟาบินโญ่ กับ ติอาโก้ คือสองคนที่เล่นได้เข้าขาที่สุด ณ เวลานี้ ขณะที่ นาบี เกอิต้า, เคอร์ติส โจนส์ และ เจมส์ มิลเนอร์ เป็นแค่ตัวสแตนด์บาย อย่างไรก็ตาม ดูแล้วแผนนี้น่าจะเป็นแผนที่ คล็อปป์ อาจจะเลือกปรับใช้ระหว่างเกมเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่ทีมต้องการประตูจริงๆ