ทุกคนต้องเคยมีความทรงจำที่ดีของการเตะบอลกับเพื่อนๆ สมัยที่ยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่น ช่วงเวลาที่แสนสนุก และยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้หลายคนหลงรักกีฬาฟุตบอลขึ้นไปอีก สำหรับบางคนแล้วนั้นพวกเขาอาจจะยังลงเล่นโดยที่มีความฝันว่าอยากเป็นนักเตะอาชีพร่วมกับเพื่อนๆ ที่เตะบอลด้วยกันในตอนนั้นอีกต่างหาก
ซาดิโอ มาเน่ นักเตะของ ลิเวอร์พูล เคยมีประสบการณ์แบบนั้นเหมือนกัน สมัยยังเป็นเด็กนั้นเขาต้องไปเตะบอลกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะทั้งบนสนามหญ้าหรือบนสนามที่มีแต่ดินของประเทศเซเนกัล บ้านเกิดของเขา ก่อนที่เขาจะพัฒนาตัวเองมาได้เรื่อยๆ จนเป็นสตาร์ดังคนหนึ่งของวงการลูกหนังในปัจจุบัน
หนึ่งในเพื่อนที่เล่นบอลด้วยกันกับ มาเน่ สมัยที่ยังเป็นเพียงเด็กคือชายที่ชื่อว่า โซโล ไม่นานมานี้ทั้งคู่ก็ได้เจอหน้ากัน…หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานถึง 17 ปี
เรื่องของเรื่องคือไม่กี่วันก่อน มาเน่ ไปช่วยบ้านเกิดของเขาทำศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2021 รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ นัดเยือน กินี-บิสเซา ที่สนาม เอสตาดิโอ 24 เดอ เซเตมโดร ในกรุงบิสเซา โดยที่นักเตะจาก ลิเวอร์พูล เป็นคนทำประตูชัยให้ทีมในนาทีที่ 82 ด้วย
บังเอิญเหลือเกินที่ โซโล ก็อยู่ที่สนามนั้นพอดี ปัจจุบันเพื่อนที่เคยเตะบอลกับ มาเน่ สมัยยังเป็นวัยรุ่นนั้น มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงบิสเซา และวันนั้นเขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปประจำการที่สนาม เอสตาดิโอ 24 เดอ เซเตมโดร พอดี ด้วยเหตุนี้ ในตอนที่เขาเห็นปีกวัย 28 ปีจากที่ไกลๆ หลังจบเกมแล้วนั้น เขาก็ไปบอกกับเจ้าหน้าที่ของทีมชาติเซเนกัลว่าอยากเจอหน้ากับ มาเน่ และขอให้ไปช่วยตามตัวปีกคนดังมาให้หน่อย
ตอนแรกนั้น มาเน่ ก็คงจำเขาไม่ค่อยได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะห่างกันมานาน และ มาเน่ ก็เจอกับคนหลายต่อหลายคนตลอดช่วงที่ผ่านมาจนอาจจะลืมเพื่อนเก่าไปบ้าง แต่สำหรับ โซโล แล้วนั้น เขาไม่เคยลืมอดีตสหายที่ตอนนี้กลายเป็นดาวดังระดับโลกแล้วเลย และเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขในตอนที่ได้เจอกับ มาเน่
เพื่อเป็นการยืนยันว่าตัวเองเคยเตะบอลมากับ มาเน่ แล้วจริงๆ โซโล เลยพกภาพสมัยที่เล่นร่วมกับในตอนที่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กติดตัวมาด้วย พร้อมกับยื่นให้ มาเน่ ดู และพอได้เห็นภาพนี้แล้วนั้น มาเน่ ก็นึกออกทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โดยที่ มาเน่ ยังขอเบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายด้วย จะได้สามารถติดต่อหากันได้
นอกจากนี้ ว่ากันว่า มาเน่ ชวน โซโล มาดูฝีเท้าของเขาที่ แอนฟิลด์ ด้วยเช่นกัน หากถึงเวลาที่มีการอนุญาตให้แฟนบอลกลับมาชมเกมในสนามตามปกติได้แล้ว และนี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า มาเน่ เป็นคนที่ถ่อมตัว และไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเองแม้แต่นิดเดียว